ม่านปรับแสง (Vertical Blinds) เรียบร้อย ทำความสะอาดง่าย | IHomeEden
ม่านปรับแสง หรือ Vertical Blinds ลักษณะของมันนั้น จะเป็นใบม่านแถบยาวหลาย ๆ ชิ้นติดต่อกัน ซึ่งสามารถใช้เชือก หรือไม้เดินดึงม่านไปมาเพื่อปิด – เปิด โดยแต่ละใบม่านสามารถปรับแสงได้ในแนวตั้งได้ถึง180 องศา (จะต่างจาก มู่ลี่ ที่จะปรับเป็นแนวนอน) นอกจากนี้ยังสามารถปรับมุมมองของม่านได้ ซึ่งจะมีผลต่อแสงที่เข้ามาในห้อง ม่านปรับแสงเหมาะสำหรับหน้าต่างขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ที่มีขนาดตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้เหมาะสำหรับประตูกระจก และหน้าต่างขนาดใหญ่
ร้าน IHomeEden ของเรานั้นมีบริการจำหน่าย และติดตั้งทั่วประเทศ
ม่านปรับแสงประเภทต่าง ๆ มีอะไรบ้าง ?
ม่านปรับแสงจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภทด้วยกันดังนี้
1.กรองแสง (Sunscreen)
กรองแสง (Sunscreen) ทำจากเส้นด้าย Polyester และ Fiberglass ช่วยกรองแสงแดดเข้ามาในห้อง ให้มีแสงสว่างที่พอเพียงดูนุ่มนวลขึ้น แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว สามารถเห็นวิวภายนอกได้ แนะนำว่าแบบนี้นั้นจะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีแดดไม่จัดมาก
2.กึ่งทึบแสง (Dimout)
กึ่งทึบแสง (Dimout) ทำจากเส้นด้าย Polyester และ Cotton ชนิดพิเศษ ทำให้ห้องมีแสงเพียงพอ แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว มันเหมาะสมสำหรับห้องนั่งเล่น และห้องอาหารที่ต้องการให้แสงธรรมชาติเข้ามา แต่ยังคงความเป็นส่วนตัว และนอกจากนี้นั้น ยังไม่มีเสียงรบกวนในเวลารูดเก็บหรือปิดใบม่านอีกด้วย
3.ทึบแสง (Blackout)
ทึบแสง (Blackout) ทำจากเส้นด้าย Polyester และ Fiberglass และนำมาเคลือบด้วย PVC ที่มีส่วนผสมของ Carbon สามารถบล็อคแสงเข้ามาในห้องได้ถึง 99% ด้วยวัสดุที่มีการออกแบบหลายชั้น เพื่อป้องกันแสง ทำให้ห้องมืด และเหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดไฟมากขึ้น หากมีการใช้งานในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ
4.อะลูมิเนียม (aluminum)
อะลูมิเนียม (aluminum) สามารถบล็อคแสงที่เข้ามาในห้องได้ถึง 100% สามารถติดกับบานประตู หรือบานที่มีการเปิด-ปิดบ่อยได้ เหมาะกับห้องแอร์ ไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีลมเข้า หรือมีการใช้งานพัดลมบ่อย เนื่องจากว่าเวลามีลมเข้ามาประทบ จะทำให้เกิดเสียงรบกวนนั่นเอง นอกจากนี้นั้น หากมีการทับหรือหักงอใบม่าน จะทำให้ชำรุดได้ง่าย และอาจจะไม่คืนตัวกลับได้
5.PVC ลายไม้
PVC ลายไม้ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าประเภทอื่น ๆ แต่มันเหมาะกับห้องรับแขก นั่งเล่น ห้องสปา หรือการตกแต่งสถานที่แนวธรรมชาติอย่าง โฮมสเตย์ คาเฟ่ รีสอร์ท ร้านอาหาร ฯลฯ เป็นต้น เนื่องจากให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาตินั่นเอง ช่วยให้ห้องนั้นมีบรรยากาศที่ร่มเย็นผ่อนคลายสบายตา นอกจากนี้ยังแข็งแรงทนทานมาก ๆ อีกด้วย
ข้อดีและข้อเสียของม่านปรับแสง
ข้อดี
- ประหยัดพื้นที่ ตัวม่านนั้นใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ทำให้ห้องดูกว้าง โปร่ง ไม่อึดอัด
- การดูแลรักษาง่าย ม่านปรับแสงสามารถซ่อมแซมได้ง่าย ถ้าแถบผ้าม่านมีความเสียหาย หรือสกปรก สามารถเปลี่ยนใบม่านแต่ละแถบได้โดยง่าย ไม่เหมือนม่านอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อม่านใหม่
- ความทนทาน ม่านปรับแสงทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น PVC ไม้สังเคราะห์ และผ้าใยสังเคราะห์ ซึ่งสามารถทนต่อการใช้งาน และการสึกหรอได้ดี แถมยังอยู่ได้นานถึง 10-20 ปี หากมีการบำรุงรักษาอยู่เสมอ
- ทำความสะอาดง่าย ม่านปรับแสงทำความสะอาดได้ง่ายมาก โดยเฉพาะที่ทำจาก PVC หรือไม้สังเคราะห์ ซึ่งเพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดลงไปก็สะอาดแล้ว
- เหมาะสำหรับห้องที่มีประตู หรือหน้าต่างขนาดใหญ่ เพราะช่วยให้ได้รับแสง และลมจากภายนอก แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
ข้อเสีย
- เสียงรบกวน ม่านปรับแสงอาจสร้างเสียงรบกวนเมื่อมีลมพัด เนื่องจากใบม่านที่ด้านล่างของแต่ละแถบผ้าที่เชื่อมต่อกัน ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อมีลมพัดเข้าหน้าต่างที่เปิดอยู่
- ดูเป็นทางการมากเกินไป แม้ว่าจะมีการปรับแต่งได้ แต่ม่านปรับแสงมีลักษณะที่ดูเป็นทางการ บางครั้งก็ถูกมองว่าเหมาะกับที่ทำงานมากกว่าบ้าน
- ห้องที่มีหน้าต่างหรือประตูขนาดเล็ก เนื่องจากอาจปิดทัศนียภาพมากเกินไป และดูไม่เหมาะสม
ทริคในการเพิ่มสไตล์ และการใช้งาน
- ใบม่าน (Slats) สามารถเลือกแถบใบม่านที่เรียบ หรือมีลวดลายได้ เพื่อเพิ่มสไตล์ให้กับม่านปรับแสง ใบม่านทรง S จะช่วยป้องกันแสงได้ดีกว่า
- การวางตำแหน่ง สามารถเลือกว่าจะให้ม่านปรับแสงเปิดไปทางด้านซ้าย ด้านขวา หรือทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับการรับแสง และการกันแสงเข้า
- ตัวม่านนั้นสามารถเลือกเก็บได้ 2 แบบ คือแบบ แยกออกตรงกลาง หรือรวบเก็บไว้ด้านเดียว ซึ่งก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน และแต่ละพื้นที่
- ระบบรางม่านปรับแสงมี 2 แบบ คือแบบ รางระบบเชือกปรับ หรือรางระบบแกนปรับ
วิธีการดูแลรักษา และการทำความสะอาดม่านปรับแสง
การดูแลรักษาและทำความสะอาดม่านปรับแสง (Vertical Blinds) นั้นมีหลายวิธีด้วยกันดังนี้
- ใช้ไม้ขนไก่ ปัดฝุ่นออกจากม่านปรับแสงทุกเดือนเป็นประจำ หลังจากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นซ้ำ เพื่อความสะอาดที่มากขึ้น
- ใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำ วิธีนี้นั้นจะใช้กับคราบเหนียวต่าง ๆ เช่น น้ำสี ขนมหวาน น้ำจากอาหารต่าง ๆ ฯลฯ เป็นต้น คำเตือน ต้องระมัดระวังสำหรับม่านที่ทำจากผ้า เพราะบริเวณที่ใช้น้ำยาอาจจะดูอ่อนกว่าส่วนอื่นของม่านได้
- ผ้าชุบน้ำเปียก วิธีที่จะใช้ทำความสะอาดสำหรับ PVC และอะลูมิเนียม เท่านั้นให้ทำความสะอาดทุกเดือนเป็นประจำ
- ยางลบดินสอ ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยวิธีหนึ่ง ในการขจัดลอยเปื้อเล็กน้อย แต่ควรทำด้วยความระมัดระวังไม่ออกแรงจนเกินไปอาจทำให้วัสดุที่ทำจากผ้าชำรุดได้เช่นกัน
- ใช้บริการจากมืออาชีพ เป็นอีกวิธีที่สะดวกมาก ๆ หากเรานั้นไม่อยากทำความสะอาดเอง ก็สามารถจ้างมืออาชีพมาดูแลให้ได้
การดูแลรักษา และทำความสะอาดม่านปรับแสงอย่างถูกวิธีสามารถช่วยให้ม่านของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และช่วยให้บ้านของคุณดูสวยงาม และน่าอยู่อาศัยได้อย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้คุณได้รับความรู้ เกี่ยวกับม่านปรับแสงมากยิ่งขึ้น หากสนใจบริการผ้าม่าน ซักผ้าม่าน หรือต้องการติดตั้งผ้าม่าน เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำฟรี สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line: @ihomeeden
สนใจติดต่อ IHomeEden ที่ 089-003-4345 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @ihomeeden(มี @ นำหน้า)
📞 | 089-003-4345
💬 |(Line) https://lin.ee/fA7MIo4